กลับไปที่ Home Page ของแอโรคอม! คลิ๊ก! เพื่อไปที่หน้ารายละเอียดตัวแทนจำหน่ายของแอโรคอม! คลิ๊ก! เพื่อไปที่หน้าข่าวและกิจกรรมของแอโรคอม

ขณะนี้กำลังแสดงภาษาไทย!

Click for English!

คลิ๊ก! เพื่อไปที่หน้ารายละเอียดข้อมูลและการติดต่อกับแอโรคอม คลิ๊ก! เพื่อไปที่หน้ารายละเอียดตำแหน่งงานว่าง


แอโรคอม > แผนก2 > แคนโทรนิคส์ > ความรู้พื้นฐาน Packet Radio  

   อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม   K

 

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ PACKET RADIO

kantronics.gif (2350 bytes)
เหมาะกับท่านกำลังสนใจและท่านที่ต้องการทราบในรายละเอียดเพิ่มเติม
    เราจะกล่าวถึง 5 หัวข้อ คือ

     1. ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนในระบบ PACKET RADIO

     2.
การส่งข้อความจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่ง

     3.
รายละเอียดเกี่ยวกับ PACKET

     4.
สรุปเรื่อง PROTOCOL

    
5. ดูรายละเอียดภายใน TNC (ยกตัวอย่าง Kantronics KPC-3+)
 

innovation copy.gif (2399 bytes)PACKET RADIO ทำให้ท่านสามารถส่ง (โดยปราศจาก error) การสื่อสารทางดิจิตอลจาก สถานี PACKET RADIO หนึ่ง ไปยังอีก สถานี PACKET RADIO หนึ่ง ถ้าท่านเป็นผู้ส่งหรือผู้รับ ท่านจะเห็นเพียง ข้อความ หรือแฟ้มข้อมูล ที่ถูกส่งและรับ แต่หลังฉากแล้ว มีการกระทำต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ท่านจะมีความเข้าใจด้าน PACKET RADIO มากขึ้น และเริ่มต้นใช้งาน ได้เร็วขึ้น ถ้าท่านมีความเข้าใจพื้นฐาน ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อท่านคีย์ส่งข้อความออกไป   และบทความนี้ จะพยายามอธิบาย ให้ท่านเข้าใจ มากขึ้น

     1. ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนในระบบ PACKET RADIO
        สถานี PACKET RADIO ประกอบด้วย ส่วนประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน


  ทั้ง 3 ส่วน ทำงานร่วมกันดังนี้

   i. วิทยุรับส่ง
     1. ส่งและรับสัญญาณวิทยุ กับสายอากาศ
     2. ส่งและรับสัญญาณเสียงกับ TNC

   ii. TNC
     1. แปลงสัญญาณเสียงจากวิทยุให้เป็นข้อมูลดิจิตอลและแปลงข้อมูลดิจิตอลให้เป็นสัญญาณเสียง
     2. ทำการควบคุมและฟังก์ชั่นเก็บข้อมูลต่าง ๆ

   iii. คอมพิวเตอร์ ทำการสื่อสารแบบดิจิตอลกับ TNC เพื่อที่ :
     1. ท่านสามารถเห็นข้อมูลที่รับมาจากวิทยุหรือที่เก็บไว้ใน MAIL BOX (คือ PBBS)
     2. ท่านสามารถใช้ คอมพิวเตอร์ ในการส่งข้อมูลถึงและรับข้อมูลจาก สถานี PACKET RADIO อื่นๆ
         โดยผ่าน  TNC และ วิทยุสื่อสาร
     3. ควบคุมการทำงานของ TNC

     i. วิทยุรับส่ง พร้อมสายอากาศ
     i. อุปกรณ์ที่เรียกว่า TNC ซึ่งคืออุปกรณ์ที่ ผสมระหว่างโมเด็ม และไมโครคอมพิวเตอร์   ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน
     iii. คอมพิวเตอร์ มาตรฐาน (หรือเทอร์มินัล)

tnc1.jpg (8250 bytes)

    
   


     
2. การส่งข้อความจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่ง

 

 



  สมมุติว่า สถานี PACKET RADIO เริ่มต้น คือ สถานี1 ต้องการส่งข้อความ “HELLO” ไปยัง สถานี PACKET RADIO ปลายทางคือ สถานี3 และ สถานี1 ทราบดีว่าสัญญาณที่ส่งไป อาจไปไม่ถึง สถานี3 เพราะระยะทางไกล   แต่สามารถผ่านไปทาง สถานี PACKET RADIO ตัวกลาง คือ สถานี2 เพื่อส่งต่อไป สถานี3
ต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น

โดย ขั้นตอนที่ 1 เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นครั้งเดียว

ขั้นตอนที่ 2-ขั้นตอนที่ 3 เป็นการเชื่อมต่อระหว่าง สถานี PACKET RADIO

ขั้นตอนที่ 4-ขั้นตอนที่ 13 เป็นการติดตามข้อความ “HELLO” ตั้งแต่มันถูกพิมพ์เข้า คอมพิวเตอร์ โดย สถานี1 จนเมื่อมันถูกอ่านโดย สถานี3

    
     วิธีการที่เร็วที่สุดในการทำความเข้าใจเรื่อง PACKET คือการเฝ้าตามข้อความที่ถูกส่งจาก สถานี PACKET RADIO หนึ่งผ่าน สถานี PACKET RADIO ตัวกลางไปถึง สถานี PACKET RADIO ปลายทาง

ขั้นตอนที่ 1 ก่อนการทำงานทั้งหมด ทุก สถานี PACKET RADIO ที่เกี่ยวข้องทั้ง สถานี1 สถานี2 และ สถานี3 จะต้องมี CALLSIGN ซึ่งจะถูกใช้โดย TNC ที่เกี่ยวข้องในการแยกแยะสถานี และดำเนินการเกี่ยวกับ ข้อมูล (คือการทำการ เกี่ยวกับต้นทาง ปลายทาง และเส้นทางของ ข้อมูล)
     ดังนั้นเราจะเริ่มต้น โดยถือว่าแต่ละ สถานี PACKET RADIO ที่เกี่ยวข้องได้ทำการกำหนด CALLSIGN ของตนเองแล้ว สังเกตว่า CALLSIGN อาจหมายถึง CALLSIGN ของ สถานี PACKET RADIO หรือ CALLSIGN ของ PBBS   ซึ่งคือ กล่องไปรษณีย์ ซึ่งอยู่ใน RAM ภายใน TNC
ขั้นตอนที่ 2 การสื่อสาร เริ่มต้นเมื่อผู้ใช้ที่ สถานี1 เปิด คอมพิวเตอร์  TNC และ วิทยุสื่อสาร ที่สถานี และใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ บอก TNC ว่าต้องการเชื่อมต่อ การสื่อสาร “CONNECTION” กับ สถานี ปลายทาง คือ สถานี3 โดยผ่าน สถานี ตัวกลางคือ สถานี2 เป็น สถานี Repeater เพื่อช่วยขยาย ระยะการส่งของ สถานี1 และระยะการรับของ สถานี3

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อ สถานี1 มีการใช้คำสั่ง “CONNECT” พร้อมระบุ สถานีปลายทาง ทำให้ TNC ทำการสร้าง ชุดของข้อความสั่งงาน เพื่อขอทำการเชื่อมต่อ สถานี ซึ่งชุดข้อความนี้ จะถูกส่งจาก สถานี1 ออกอากาศออกไป ถ้าชุดข้อความนี้ ถูกรับได้โดย สถานี ตัวกลางคือ สถานี2 และถูก Repeat ออกไป และสามารถรับได้โดย สถานี ปลายทาง คือ สถานี3 การเชื่อมต่อก็จะเกิดขึ้น
     ในการยืนยันการเชื่อมต่อ สถานี ปลายทางจะส่งข้อความพิเศษ เพื่อตอบรับโดยอัตโนมัติ ย้อนกลับเส้นทางไปหา สถานี1
เมื่อการยืนยันรับได้ที่ สถานี1   เครื่องTNC ของ สถานี1 จะถือว่า ผู้ใช้ที่ สถานี1 ต้องการเริ่มการส่งข้อความ ดังนั้น เครื่องTNC จะ
        1. ส่งข้อความแสดงที่หน้าจอ คอมพิวเตอร์ ยืนยันว่า สถานี1 ได้รับการเชื่อมต่อ กับ สถานี3 ผ่านทาง สถานี2
        2. เปิดไฟ ที่ LED “CONNECTED” ของ เครื่องTNC ซึ่งจะติดสว่าง ตราบเท่าที่ยังมี การเชื่อมต่อ
        3. เปลี่ยนโหมดการทำงานของตัว เครื่องTNC เอง จากเดิม อยู่ในโหมดรับคำสั่ง (คืออยู่ใน COMMAND MODE คอยรับคำสั่ง ที่พิมพ์เข้าไปใน คอมพิวเตอร์โดยผู้ใช้)   เปลี่ยนเข้าสู่ โหมดการสนทนา CONVERSATION MODE   ซึ่งข้อความที่พิมพ์เข้า คอมพิวเตอร์ โดยผู้ใช้  เครื่องTNC จะตีความ ว่าเป็นข้อความ ที่เป็นการสนทนาระหว่าง สถานี ไม่ใช่เป็นคำสั่ง

ขั้นตอนที่ 4 ในตอนนี้ สถานี1 ได้เข้าสู่ โหมดสนทนา ผู้ใช้พิมพ์ข้อความ “HELLO” ตามต้องการแล้วกดปุ่ม ENTER เพื่อบอกว่าจบข้อความ   และเป็นการเริ่มต้น การเดินทางของข้อความนี้
ขั้นตอนที่ 5 คอมพิวเตอร์ ส่งข้อความ “HELLO” ไปยัง เครื่องTNC เพื่อดำเนินการต่อ
ขั้นตอนที่ 6 เครื่องTNC ได้รับข้อความ “HELLO” และเริ่มควบคุมสถานะการณ์ เริ่มจาก การปฏิบัติการ ที่ซับซ้อน หลายขั้นตอน โดยใช้ ข้อมูล เกี่ยวกับ สถานี ต้นทาง ตัวกลาง และปลายทาง ผสมเข้ากับ ข้อความที่จะส่ง ประกอบขึ้น  เป็น PACKET เพื่อทำการส่งออกไป   รายละเอียด ว่ามีอะไรอยู่ในPACKET และถูกจัดวางอย่างไร เป็นข้อตกลงร่วมด้านมาตรฐาน เพื่อให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติตามและเข้าใจ “ข้อตกลง” นี้ สามารถ นำข้อมูลมาใช้ได้   มาตรฐานดังกล่าวสำหรับ วิทยุสมัครเล่นในปัจจุบัน คือ AX.25 ดังนั้นเราสมมุติว่า PACKET ที่ถูกประกอบสร้างขึ้นใน TNC เป็นไปตาม AX.25
  หมายเหตุ PACKET ของวิทยุสมัครเล่นทั้งหมดใช้มาตรฐาน AX.25 แต่เป็นไปได้ ที่จะมีการใช้มาตรฐาน หรือ PROTOCOL อื่น (เข่น TCP/IP) อยู่บนยอดของ AX.25 ซึ่งการกล่าวถึงมาตรฐานของ PACKET ที่ใช้ จะเป็นการ กล่าวถึง PROTOCOL ที่อยู่ระดับบนสุดเสมอ
ขั้นตอนที่ 7 หลังจาก เครื่องTNC ผสม “HELLO” เข้ากับข้อมูลอื่น ทำเป็น PACKET ใน เครื่องTNC  มันจะส่ง PACKET ต่อไปที่ MODEM ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งอยู่ภายใน เครื่องTNC โมเด็มทำการแปลงข้อมูลดังกล่าว เป็นสัญญาณเสียง เพื่อการส่งแบบ serial ไปยัง วิทยุสื่อสาร ของสถานี1
ขั้นตอนที่ 8 เครื่องTNC จะสั่งให้ วิทยุสื่อสาร ทำการส่งข้อมูล PACKET (โดยการสั่งกดปุ่ม PTT) และส่ง PACKET ซึ่งอยู่ในรูปสัญญาณเสียงจาก TNC ผ่านเคเบิลต่อกับขั้วต่อไมโครโฟนของ วิทยุสื่อสาร ของ สถานี1 ไปยังภาคส่งวิทยุ
ขั้นตอนที่ 9 ตอนนี้ PACKET ก็ถูกส่งจาก วิทยุสื่อสาร ของ สถานี1 ผ่านทางคลื่นวิทยุออกไป
ขั้นตอนที่ 10 ตอนนี้ PACKET ของ “HELLO” ซึ่งรวม ข้อมูล ต้นทาง  ตัวกลาง  ปลายทาง และข้อมูลควบคุมอื่น ๆ ก็กระจายออกอากาศ ซึ่งสามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องโดย สถานี อื่น (ที่ใช้ AX.25) ที่รับสัญญาณได้
ขั้นตอนที่ 11 ขณะนั้น สถานี3 กำลังเปิด สถานี ออกอากาศอยู่ และใช้ AX.25 เช่นกัน แต่ สถานี3 อยู่ไกลเกินระยะส่งของ สถานี1 จึงไม่สามารถรับสัญญาณจาก สถานี1 ได้
ขั้นตอนที่ 12 เราทราบจากการยืนยัน การเชื่อมต่อ ว่า สถานี ตัวกลาง คือ สถานี2 ก็ออกอากาศอยู่ และใช้ AX.25 เช่นกัน สถานี2 อยู่ในระยะ ส่งของ สถานี1    มันจึงรับสัญญาณได้ และส่งต่อสัญญาณไปยัง TNC ของ สถานี เพื่อดำเนินการต่อ  เครื่องTNC ทำการแปลงข้อมูลที่รับได้ และรู้ว่าข้อความที่ส่งมาคือ “ HELLO"
   นอกจากนี้ จาก ข้อมูล สถานี2 รู้ว่า สถานี2 คือ สถานี แรก (และสถานีเดียว) ที่ถูกกำหนดให้เป็น สถานีตัวกลาง ระหว่าง สถานี1 กับ สถานี3 เนื่องจาก สถานี2 ใช้ PROTOCOL AX.25 มันจึงรู้ว่า ขึ้นตอนปฏิบัติเป็นอย่างไร เริ่มจาก การส่งข้อความ "HELLO" กลับไปออกอากาศใหม่ (คือการ digipeat) ซึ่งสัญญาณนี้ อาจจะรับได้หรือรับไม่ได้โดย สถานี3 ก็ได้ ก่อนการส่งมันจะผสม ข้อมูล ลงไปเพื่อแจ้งว่า สถานี2 ได้รับ PACKET นี้ และทำการส่งต่อ
ขั้นตอนที่ 13 เราทราบจากการยืนยัน การเชื่อมต่อ ว่า สถานี3 ออกอากาศอยู่ และใช้ AX.25 และอยู่ในระยะ ส่งของ สถานี2 และอยู่ในโหมดสนทนาดังนั้น สถานี3 สามารถรับสัญญาณข้อความจาก สถานี2 เข้ามายัง เครื่องTNC และ แสดงข้อความ "HELLO" ปรากฏบนจอ คอมพิวเตอร์ ของ สถานี3      ในเวลาเดียวกัน TNC ของ สถานี3 สร้างข้อความ ยืนยันการได้รับข้อความที่ส่งมา พร้อมกำหนดเส้นทางส่งกลับทาง เมื่อ TNC สถานี3 ตรวจเจอว่า ช่องสัญญาณ วิทยุสื่อสาร ว่าง ก็จะสั่งการคีย์ส่งข้อมูลยืนยันนี้ ออกอากาศไป
ขั้นตอนที่ 14 สถานี2 เมื่อรับข้อมูลยืนยันจาก สถานี3 ก็จะทำการ digipeat เช่นปกติ
ขั้นตอนที่ 15 สถานี1 เมื่อได้รับสัญญาณจาก สถานี2 ก็จะได้รับข้อความยืนยันจาก สถานี3 ว่าได้รับ "HELLO" ที่ส่งไปเรียบร้อยแล้ว

ตัวอย่างนี้ คงพอทำให้เห็นขั้นตอนรายละเอียดที่เกิดขึ้น หลังจาก สถานี1 ส่ง "HELLO" ออกอากาศไป

 


3. รายละเอียดเกี่ยวกับ PACKET


     สถานี PACKET RADIO จะทำการแบ่งข้อความ (หรือแฟ้มข้อมูล) ออกเป็นส่วน ๆ โดยอัตโนมัติ และนำ แต่ละส่วน มาประกอบเป็น PACKET ของมันเอง ในแต่ละ PACKET จะประกอบด้วย ข้อมูล และข้อมูลควบคุมที่ใช้กำหนด สถานี ต้นทางปลายทาง ตัวกลาง และข้อมูลควบคุมอื่น ๆ (เช่น error correction)

    

    วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการส่งข้อความจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง คือการแบ่งข้อความออก เป็นตอนเล็ก ๆ หลายตอน ซึ่งตอนเหล่านี้ก็คือ PACKET หรือ frame และทำการส่ง PACKET หรือตอน นี้ออกไปเป็นอิสระต่อกัน

หมายเหตุ คำที่ถูกต้องคือ data frame ไม่ใช้ PACKET หรือ frame แต่เราจะใช้ PACKET ต่อไป เพราะเป็นคำที่ คนทั่วไป นิยมใช้ และเป็นที่เข้าใจ

                               airrow.gif (156 bytes)
                                                    airrow.gif (156 bytes)
                              airrow.gif (156 bytes)

Unconnected Packet

PACKET อาจไม่จำเป็นต้องมี การกำหนด สถานี และเส้นทางก็ได้ PACKET ประเภทนี้เรียกว่า PACKET แบบไม่กำหนด การเชื่อมต่อ (Unconnected PACKET )   PACKET แบบนี้จะถูกส่งออก โดยไม่ต้องมีการยืนยัน การได้รับจาก สถานี ปลายทาง สถานีที่รับสัญญาณได้ สามารถตรวจสอบข้อมูลที่รับว่า PACKET ถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อไม่มีการยืนยัน การตอบรับ   สถานีที่รับจึงไม่สามารถแจ้งกลับ ไปที่สถานีต้นทาง และจึงไม่สามารถ ร้องขอการส่งซ้ำ ถ้าตรวจพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบ
หมายเหตุ การส่งแบบนี้มีอีกชื่อว่าการส่งแบบ UNPROTO (non-Protocol) เพราะสถานีส่ง ไม่มีการคาดหวัง การตอบสนองจาก สถานี รับ
  Connected Packet

การใช้งาน PACKET RADIO นิยมใช้งานในลักษณะมี การเชื่อมต่อ เพราะเป็นการประกันว่า ข้อความหรือ ข้อมูล ที่ส่งออกไปจะได้รับถูกต้องครบถ้วน (Vertually Eror Free) โดยปฏิบัติตามขึ้นตอน AX.25

  ต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการติดต่อของ สถานี ที่ติดต่อกัน
        หลังจากมีการยืนยัน การเชื่อมต่อ ระหว่าง 2 สถานี ข้อมูล PACKET จะถูกส่งตามลำดับ จาก สถานี ส่ง ไปสถานี รับ โดยมีเลขกำหนดลำดับ เป็นส่วนหนึ่งใน PACKET แต่ละ PACKET    สถานีรับ จะคอยตามว่าได้รับ PACKET ที่ถูกต้อง (ตรวจความถูกต้องแบบ check sum ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งใน PACKET ) หมายเลขใดบ้าง และแจ้งกลับไปยัง สถานี ส่งว่าต้องการ ให้ส่ง PACKET หมายเลขใดมาต่อ
        วิธีการนี้ทำให้การส่ง PACKET ปราศจากความผิดพลาด จนการส่งเสร็จสิ้น หรือการส่งล้มเหลว จนหมดเวลาที่ตั้งไว้ (คือไม่ได้รับการยืนยันจาก สถานีรับ)
        หมายเหตุ ในเกือบทุกกรณี การสื่อสาร PACKET มีลักษณะเป็นการส่งจดหมาย ไม่ใช้โทรศัพท์ เพราะไม่ใช่การโต้ตอบ แบบ real-time แต่เป็นการส่งข้อความจาก สถานี (หรือ node) ไปยังอีก สถานี



4. สรุปเรื่อง PROTOCOL

PACKET RADIO จะเป็นผู้ทำหน้าที่ในรายละเอียด ท่านไม่จำเป็นต้องรู้ว่าทำอย่างไร แต่เป็นประโยชน์ ถ้าท่าน มีความเข้าใจว่า PACKET ถูกจัดวางอย่างไร

PACKET ของวิทยุสมัครเล่นทั้งหมด จะถูกกำกับโดย AX.25 protocol ข้อมูลที่ส่งโดยผู้ใช้ เช่น "HELLO" จะเรียกว่า INFORMATION PACKET ดูภาพแสดงรายละเอียด AX.25 PACKET

AX25Packet.GIF (13962 bytes)







 
   จากภาพจะเห็นว่า control field ใน AX.25 PACKET จะเป็นรหัส (Code) เพื่อบอกชนิดของ PACKET ที่กำลังส่งอยู่ นอกจากนี้ AX.25 ยังกำหนด ชนิดของ PACKET อีก 2 แบบ ซึ่งทั้ง 2 แบบ มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับ INFORMATION PACKET คือ
     -- Control packets (ซึ่งมีหลายแบบ)
     -- Unnumbered packet
         (รายละเอียดจะได้นำเสนอในตอนหลัง)







Protocol (กฎในการทำงานร่วมกัน)

PACKET ก็เช่นเดียวกับการสื่อสารประเภทอื่น ๆ ที่อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจะต้องใช้ ข้อตกลงร่วมกัน (Protocol) ในการจัดการ และขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ เป็นไปตามที่ตกลง จึงจะทำให้การสื่อสารประสบความสำเร็จ
AX.25
มาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกสำหรับ PACKET RADIO ของ วิทยุสื่อสาร สมัครเล่น คือ AX.25 (level2 Version 2) รายละเอียดของ AX.25 ดูได้จากสิ่งพิมพ์ของ ARRL คือ AX.25 Amateur Packet-Radio Link-Layer Protocol
     หมายเหตสำหรับ KPC3+ สามารถตั้งให้ใช้งานได้กับ AX.25 level2 Vession1 ได้ด้วย

TCP/IP และ KISS Protocol
ชุดของโปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)  ต้องการใช้การทำงาน ที่ไม่ปรากฏอยู่ใน AX.25 ดังนั้น Phil Karn KA 9 Q จึงได้สร้างชุดโปรโตคอล ชื่อ KISS ซึ่งนำเอาลักษณะการใช้งานของ TCP/IP มาใช้ใน วิทยุสื่อสาร สมัครเล่น (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในตอนหลัง)

XKISS
เป็นส่วนขยายของ KISS สร้างโดย John Wiseman G8BPQ



5.
ดูรายละเอียดภายใน TNC
(ยกตัวอย่าง Kantronics KPC-3+)


เพื่อให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ให้ดูภาพแสดงภายใน TNC ของ KPC-3 plus

Diagram KPC-3 Plus.GIF (29370 bytes)

   
ในยุคต้นของ PACKET RADIO    TNC ประกอบด้วย โมเด็ม เพื่อติดต่อกับ วิทยุสื่อสาร และไมโครโปรเซสเซอร์ ที่ออกแบบ เฉพาะงาน เรียกว่า PAD (Packet Assembler/Disassembler) เพื่อทำการ PACKET ข้อมูล และสื่อสารกับ คอมพิวเตอร์ หรือ Terminal เมื่อเทคโนโลยี  มีการพัฒนา มีการเพิ่มเติมการใช้งานต่าง ๆ เช่น เพิ่มหน่วยความจำ และเพิ่มโปรแกรม ซึ่งใช้ทำกล่องไปรษณีย์ (PBBS) อยู่ภายใน TNC ภาพจะแสดงส่วนภายในที่สำคัญของ KPC3+
     หมายเหต Kantronics TNC รุ่นอื่น ๆ อาจแตกต่างออกไป เช่น อาจต่อกับ วิทยุสื่อสาร ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน





เพิ่มมูลค่า ให้วิทยุสื่อสาร ของท่าน วันนี้ ด้วย
Kantronics TNC !!!

Back | Top

Home | ข้อมูลบริษัท | สินค้าของเรา | ติดต่อฝ่ายขาย | ตำแหน่งงานว่าง | Kantronics USA

สงวนสิทธิตามกฎหมาย © All rights reserved
บริษัท แอโรคอม จำกัด 89-89/1 อินทามระ 41 ถนนสุทธิสาร ดินแดง กรุงเทพ 10400 โทร: (662) 693 8300 - 2
E - mail : aerocomm@aerocommthailand.com   or   www.aerocommthailand.com